ช่วงเช้าวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 (ศปก.ทรภ.1) แจ้งว่ามีเรือประมงต่างชาติ (เรือประมงอวนลากคู่) จำนวน 2 คู่ ได้รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย ห่างปลายแหลมเทียน อ.เกาะกูด จ.ตราด ประมาณ 29 ไมล์ ใกล้กับพื้นที่รับผิดชอบของหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.)จึงสั่งการเรือในหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 (มชด./1) ออกลาดตระเวนค้นหา ตรวจสอบและจับกุม
โดยส่งเรือ ต.113 และ เรือ ต.237 ออกเรือทำการลาดตระเวนค้นหา กลุ่มเรือประมงต่างชาติ สัญชาติเวียดนาม ตามที่ได้รับจำนวน 2 ลำ เบื้องต้นพบว่า ลักษณะตัวเรือมีสีเขียว เก๋งสีขาวคาดเทา จึงนำเรือเข้าตรวจค้นและจับกุม แต่เรือทั้งสองลำได้ทิ้งอุปกรณ์ทำการประมง และพยายามหลบหนี ไม่ยินยอมให้เข้าตรวจค้นจับกุมแต่โดยดี ทั้งนี้เรือทั้งสองลำได้เพิ่มความเร็ว แล่นส่ายไปมา และพยายามจะพุ่งชนเรือที่เข้าสกัดกั้น
โดยเรือ ต.113 และเรือ ต.237 ได้ปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมเรือประมงต่างชาติ แต่ยังไม่อาจทำให้ เรือประมงต่างชาติหยุดเรือได้ ยังคงนำเรือมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก เพื่อออกนอกน่านน้ำไทย
ช่วงเช้าวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 (ศปก.ทรภ.1) แจ้งว่ามีเรือประมงต่างชาติ (เรือประมงอวนลากคู่) จำนวน 2 คู่ ได้รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย ห่างปลายแหลมเทียน อ.เกาะกูด จ.ตราด ประมาณ 29 ไมล์ ใกล้กับพื้นที่รับผิดชอบของหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.)จึงสั่งการเรือในหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 (มชด./1) ออกลาดตระเวนค้นหา ตรวจสอบและจับกุม
โดยส่งเรือ ต.113 และ เรือ ต.237 ออกเรือทำการลาดตระเวนค้นหา กลุ่มเรือประมงต่างชาติ สัญชาติเวียดนาม ตามที่ได้รับจำนวน 2 ลำ เบื้องต้นพบว่า ลักษณะตัวเรือมีสีเขียว เก๋งสีขาวคาดเทา จึงนำเรือเข้าตรวจค้นและจับกุม แต่เรือทั้งสองลำได้ทิ้งอุปกรณ์ทำการประมง และพยายามหลบหนี ไม่ยินยอมให้เข้าตรวจค้นจับกุมแต่โดยดี ทั้งนี้เรือทั้งสองลำได้เพิ่มความเร็ว แล่นส่ายไปมา และพยายามจะพุ่งชนเรือที่เข้าสกัดกั้น
โดยเรือ ต.113 และเรือ ต.237 ได้ปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมเรือประมงต่างชาติ แต่ยังไม่อาจทำให้ เรือประมงต่างชาติหยุดเรือได้ ยังคงนำเรือมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก เพื่อออกนอกน่านน้ำไทย
ที่มาข้อมูล: มติชนออนไลน์