DMCR NEWS

ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2562

ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทีมสัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยังคงดูแลอนุบาล “เจ้ามาเรียม” พะยูนน้อย ทั้งการป้อนนม และป้อนหญ้าทะเลรวมทั้งการพายเรือแคนู เพื่อพามาเรียมออกกำลังกาย โดยในวันนี้มีการตรวจสุขภาพ และเก็บตัวอย่างเลือด วัดขนาดลำตัว ความยาว พร้อมกับถ่ายภาพส่วนหาง ซึ่งจะมีอัตลักษณ์ประจำตัวของพะยูนแต่ละตัว เพื่อไว้เป็นข้อมูล

สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในวันนี้สภาพร่างกายแน่นขึ้น แต่ยังไม่ได้ตามคาดหวังไว้ เพราะบางช่วงทางสัตว์แพทย์ไม่สามารถให้อาหารได้เต็มที่ ขวดสุดท้ายจะให้ได้ในเวลาประมาณ 19.00 น. หลังจากนั้นในเวลากลางคืนไม่สามารถป้อนอาหารให้ได้ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย ตามหลักการแล้วจะต้องให้อาหารให้ได้วันละประมาณ 10 % ของน้ำหนักตัว โดยมาเรียมจะต้องได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 มิลลิลิตร แต่ขณะนี้เราทำได้แค่ประมาณ 2,500 - 2,700 มิลลิลิตร ยังน้อยไปประมาณ 2-3 %

ขณะนี้ฟันมาเรียนเริ่มโผล่ขึ้นมาบนเหงือกแล้ว แต่ยังไม่พ้น ทั้งหมดต้องขอบคุณความอดทนของคุณหมอ สัตวแพทย์ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ที่ได้พยายามดูแลมาเรียมอย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อว่าการดูแลดังกล่าวเพื่อให้มาเรียมปลอดภัยดูแลตัวเองได้จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี หรือ 1 ปีเศษ เพราะมาเรียมยงต้องการนมอีก โดยปกติพะยูนจะต้องกินนมแม่จนอายุได้ประมาณ 1.8 - 2 ปี จึงจะทิ้งนมและกินหญ้าทะเลอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างมากของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ส่วนเรื่องการเตรียมแผนทำงานในช่วงฤดูมรสุมใหญ่ 1 ในนั้นคือ การทำบ่ออนุบาลชั่วคราวขึ้นบริเวณริมตลิ่งในบริเวณอ่าวดุหยง ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจที่ชัดเจน ต้องปรึกษากันหลายฝ่าย โดยสิ่งที่ทีมแพทย์เป็นห่วงมากที่สุดคือ ห่วงเรื่องการกินนมให้เพียงพอ ให้ร่างกายเติบโตแข็งแรง ได้น้ำหนักที่เพียงพอ ห่วงเรื่องการเกยตื้น ซึ่งในช่วงน้ำใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนเวลาน้ำลง ห่วงมาเรียมจะเกยตื้น ห่วงเรื่องการกินหญ้าทะเลด้วยตัวเอง คุณหมอก็ห่วงเหมือนกับเป็นเด็กเล็ก

ที่มา : One31 ออนไลน์